หากคุณกำลังค้นหาพรมปูพื้นรถยนต์และเจอกับคำว่า “พรมรองพื้นรถยนต์” จนเกิดข้อสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรหรือคืออะไรกันแน่? หากต้องการเลือกใช้งานควรเลือกแบบไหน? เรารวมรายละเอียดมาให้แล้ว
พรมรองพื้นรถยนต์ คืออะไร เหมือนกับพรมปูพื้นรถยนต์หรือไม่?
พรมปูพื้นรถยนต์หรือพรมรองพื้นรถยนต์เป็นอย่างเดียวกัน เพียงแค่เป็นชื่อเรียกคนละแบบเท่านั้น ส่วนจุดประสงค์หลักในการใช้พรมรองพื้นหลัก ๆ มีอยู่ด้วยกันแค่ 3 อย่าง ได้แก่ เพิ่มความสวยงามให้กับภายในตัวรถ ป้องกันพื้นผิวรถยนต์และรักษาความสะอาดหรือป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เกิดการสะสม จึงสามารถกล่าวได้ว่าพรมปูพื้นถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คนรักรถทุกคนควรมีนั่นเอง
เลือกพรมแบบไหนถึงจะใช่สำหรับคุณ
หลังจากได้คำตอบไปแล้วว่าพรมรองพื้นรถยนต์กับพรมปูพื้นรถยนต์คืออย่างเดียวกัน ไปดูกันว่าต้องเลือกยังไง
- เลือกจากรูปแบบ พรมปูพื้นรถยนต์ที่มีการจัดจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันมีให้เลือกหลายรูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบมีคุณสมบัติและตอบโจทย์การใช้งานแตกต่างกันไป เช่น
- พรมไวนิล มีคุณสมบัติเด่นในการดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกได้ดีเยี่ยม สัมผัสนุ่มสบายเท้า ง่ายต่อการทำความสะอาดและมีราคาย่อมเยา
- พรม PVC มีคุณสมบัติเด่นด้านความสวยงาม แข็งแรงทนทาน สามารถตัดให้เข้ากับกับสัดส่วนหรือรูปทรงภายในตัวรถได้ แถมยังทำความสะอาดง่ายและราคาไม่แพง
- พรม 6D มีคุณสมบัติเด่นด้านการทำความสะอาดง่าย แค่ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือผ้าเช็ดฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกบนพรมโดยไม่จำเป็นต้องถอดออกทั้งแผง อีกทั้งยังมีสีสันลวดลายทันสมัยสุด ๆ อีกด้วย
- เลือกจากวัสดุ วัสดุที่ใช้วัสดุที่ใช้ในการผลิตพรมปูพื้นรถยนต์หลัก ๆ มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
- EVA จัดเป็นโฟมพลาสติกที่ปราศจากสารอันตรายหรือสารพิษที่มีผลต่อร่างกายมนุษย์ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติน้ำหนักเบา, มีความยืดหยุ่นสูง, ดูดซับแรงกระแทกจากภายนอกได้ดี, ทนต่อความร้อนและไร้กลิ่น
- PVC โดดเด่นด้วยคุณสมบัติทนทาน, ยืดหยุ่น, ทำความสะอาดง่าย, ไม่ทิ้งคราบและสามารถผลิตให้ได้ขนาดพอดีกับตัวรถ
- เลือกจากความชอบของแต่ละคน การเลือกจากความชอบง่ายมาก เพราะแค่ดูว่าตัวเองชอบอะไร ชอบลายแบบไหน ชอบสไตล์อะไร เช่น ชอบความเรียบหรู อาจเลือกพรมแบบ 6D ชอบความง่ายในการดูแลรักษาเลือกพรมแบบ PVC เป็นต้น
สรุปได้ว่าพรมรองพื้นรถยนต์มีความสำคัญพอ ๆ กับส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะในแง่ของความสวยงามหรือลักษณะการใช้งาน แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อก็อย่าลืมดูที่คุณสมบัติของพรมแต่ละแบบและความต้องการของตัวเองด้วยว่าเป็นยังไง จากนั้นค่อยเลือกให้มีความสอดคล้องกัน เท่านี้ก็จะทำให้มั่นใจว่านอกจากจะได้ของคุณภาพแล้วยังจ่ายในราคาที่รับได้ด้วย
